เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ให้สัมโมทนียกถาการประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 16/2566
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2566 เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เมตตากล่าวสัมโมทนียกถาในการประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป (ส.ธ.ย.) สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 16/2566 ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม พ.ศ.2566 ณ วัดพุทธวิหารอัมสเตอร์ดัม ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ผ่านระบบ Video Conference
การนี้ พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม รองประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ รูปที่ 1 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เป็นประธานการประชุมฯ พร้อม พระธรรมโพธิวงศ์ ที่ปรึกษาประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ, พระธรรมวชิรโมลี รองประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ รูปที่ 2 เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ,พระวิมลศาสนวิเทศ ประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป และพระธรรมทูตสายต่างประเทศ และพระเถรานุเถระซึ่งเดินทางมาจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เข้าร่วมประชุม
เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าวสัมโมทนียกถาบางช่วงความว่า งานพระธรรมทูตนั้น เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า เป็นงานที่ต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะ ความเสียสละ และความหนักแน่นอดทน เพราะเป็นงานที่ต้องปฏิบัติศาสนกิจ ในความหลากหลายของกฎหมายวัฒนธรรม จารีต ประเพณี แต่ถึงอย่างไร เราต้องตระหนักในพระธรรมวินัยเป็นที่สุด มหาเถรสมาคม ให้ความสำคัญ กับงาน พระธรรมทูตตลอดมา อนุมัติส่งเสริมสนับสนุนให้พระธรรมทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในนานาอารยประเทศ เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่มหาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา ในประเทศนั้น ๆ ตามพระพุทธประสงค์ และตามหลักของบุรพาจารย์ เราทั้งหลายพึงตระหนักในแนวทางการ บทที่ว่า
“สาธุ สพุพตฺถ สํวโร ความสำรวมในที่ทั้งปวง เป็นดี “ธมมํ จเร สุจริตํ พึงทำดีให้สุจริต” ทำให้เหมาะ ทำให้ดี ทำให้ถูกต้อง และ วิชชา จรณสมฺปนฺโน พึงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ท่านทั้งหลาย “วิชา”กับ”ปัญญา” เกี่ยวข้องกับ “พระธรรมทูต”และทุกรูปพึงใช้ให้สมดุล อย่างแยกจากกันไม่ได้เลย ก็จริง แต่ถ้าขาด “สติ” คือ “ความระลึกรู้” คอยกำกับ “วิชาและปัญญา” แล้ว แทนที่จะเป็นคุณ ก็กลายเป็นโทษได้ เพราะบางทีอาจนำ “วิชาและปัญญา”นั้น ไปใช้เพื่อทำลายล้างผลาญ บางกาลอาจนำไปใช้ไม่เอื้อประโยชน์ก่อโทษภัยหายนะแก่ตนและสังคมได้
เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ยังกล่าวอีกว่า แตกต่างกัน แต่ไม่ควรแตกแยกกัน ควรเคารพความเห็นต่างสื่อสารด้วยสาราณียธรรม ให้เกียรติกันในความเป็นพหุวัฒนธรรมและพึงเจริญศาสนสัมพันธ์ในชุมชน สังคม ประเทศนั้นๆด้วยพุทธวิธี 3 ประการ คือ 1. สร้างศรัทธา 2. รักษาศรัทธา 3. เจริญศรัทธา