พระปัญญาวชิรโมลี เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศเนเธอร์แลนด์และอังกฤษ ร่วมการประชุมสมัชชาสงฆ์ยุโรป ที่วัดพุทธวิหารอัมสเตอร์ดัมและคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนศรีแสงธรรมของวงดนตรีจากเนเธอร์แลนด์
เมื่อเร็วๆนี้ เฟสบุ๊ค เพจ พระปัญญาวชิรโมลี นพพร โดย พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยถึงการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศเนเธอร์แลนด์และอังกฤษ ร่วมการประชุมสมัชชาสงฆ์ยุโรป ที่วัดพุทธวิหารอัมสเตอร์ดัม ความว่า
พระเสียดายแดดจาริกยุโรป ร่วมประชุมสมัชชาสงฆ์ ถวายความรู้โคกหนองนาโมเดล ศาสตร์พระราชาเป็นฐานพัฒนาที่ยั่งยืน และคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนศรีแสงธรรมของวงดนตรีจากเนเธอร์แลนด์ Biggle Bigband พร้อมกับการนำเสนอเรื่องราวการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของโคกอีโด่ยวัลเล่ย์ โดยวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2566 พระปัญญาวชิรโมลี หรือที่รู้จักกันว่า พระเสียดายแดด ได้ร่วมเดินทางไปนั้น
บรรยายศาสตร์พระราชากับการพัฒนาที่ยั่งยืน กับโคก หนอง นา ศาสตร์พระราชา ที่วัดป่าพุทธาราม เมืองนอร์ธแธมตัน ประเทศอังกฤษ พร้อมมอบเสื้อพระราชทานโคก หนอง นา ศาสตร์พระราชาในต่างแดน ซึ่งวัดป่าพุทธารามพระอาจารย์อ๊อดมาสร้างวัดแห่งนี้บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ได้แนะนำการทำโคก หนองนาตามบริบทท้องถิ่น ทำฐานการเรียนรู้คนรักษ์แม่ธรณี คือทำปุ๋ยหมักไม่พลิกกองกลับ, คนรักษ์สุขภาพ ทำยานวดสมุนไพรด้วยหญ้าเอ็นยืด และครีมบำรุงผิว, คนรักษ์ไฟ คือปรับปรุงใช้ไฟจากฟ้าโซลาร์เซลล์สูบน้ำ, คนรักษ์น้ำ ด้วยการทำความสะอาดหนองน้ำ เอาแหน หรือวัชพืชขึ้นมาทำปุ๋ยหมัก, และคนรักษ์ป่า ด้วยกิจกรรมปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง หรือกิจกรรมบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง ซึ่งฟักทองที่นี่มีเยอะมาก เวลาออกลูกทางวัดก็แจกจ่ายญาติโยมไปทำกิน มีกิจกรรมดี ๆ ที่ทำในวัดมากมาย เป็นโคก หนอง นา ในต่างแดนที่สมบูรณ์ที่สุด และผู้คนสมัครสมานสามัคคีกันดี อันเป็นหัวใจของการทำงาน และการพัฒนาตามหลักสามัคคีคือพลัง หรือความสามัคคีของหมู่คณะนำสุขมาให้
อีกทั้งยังได้ทัศนศึกษาสวนพฤกษาศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อจะนำไปประยุกต์ให้เข้ากับโคกอีโด่ยวัลเล่ย์ เพราะว่าไปดูที่ประเทศออสเตรเลียมาหลายรัฐก็มีไอเดียมาบ้าง ถ้ามีที่นี่น่าจะมีไอเดียเพิ่มขึ้นมาอีก
สวนพฤกษศาสตร์ คิว การ์เด้น(Kew Garden) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่พืชพันธ์ต้นไม้มากที่สุดในโลก รวมทั้งยังมีทัศนียภาพและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 760 ไร่ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1840 ภายในสวนนี้จะรวบรวมพืชพันธุ์ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกไว้อย่างหลากหลายกว่า 30,000 ชนิด สามารถใช้ศึกษา ค้นคว้าพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่น่าสนใจจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีห้องทดลอง และภาพวาดพืชพันธุ์ต่างๆมากถึง 175,000 รูป ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้สวนแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล ต่อมาจึงได้รับประกาศจากองค์กร UNESCO เป็นมรดกโลก เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2003
พระปัญญาวชิรโมลี ระบุว่า ที่เขียนมาคือยังไม่มีเวลา เพราะพื้นที่กว่า 760 ไร่ เป็นอะไรที่ใหญ่มาก และมีที่ให้ชมมากมายไม่เบื่อ ดูการออกแบบ การใช้หลังคาต่างระดับควบคุมอุณหภูมิของพืชแต่ละโซนทวีป ก็ได้ไอเดียดี แม้แต่ภาพวาดต้นไม้ในสวนก็เป็นงานศิลปะ ที่นำมาแสดงและวางขายได้ นักเรียนเรามีตั้งแยะน่าจะสร้างงานศิลป์มาวางในแกลอรี่ อาร์ต ของเราได้ ใช้เวลาเดิน 3 ชั่วโมงหมดแรงก่อน และเขาปิดพอดีจึงเดินไม่ทั่ว ไว้มีโอกาสจะมาชมอีกที
แต่ที่บ้านเราในกรุงเทพมหานครของเรากำลังดำเนินการสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 หรือสนามม้านางเลิ้ง ถ้าเสร็จแล้วคงจะสวยงาม และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม สร้างรายได้เข้าประเทศได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สอดคล้องกับการขนส่งการเดินทางพื้นที่ของไทยปีนี้ติดอันดับดีที่สุดของโลกอยูในอันดับที่ 9 หากถนนหนทางที่กำลังก่อสร้าง และรถไฟฟ้าเปิดครบทุกสายก็จะส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวที่คนทั้งโลกอยากมาเยี่ยมชมอีก
