เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2568 ณ วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่ 1






จากนั้น เสด็จพระดำเนินต่อไปยัง อำเภอบางปะอิน สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ที่ วัดนิเวศธรรมประวัติ ราชวรวิหาร อำเภอบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่ 2




วัดนิเวศธรรมประวัติ เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงสั่งการให้สร้างขึ้นบนที่ดินอันเป็นเกาะ ติดกับพระราชวังบางปะอิน ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี เสร็จเป็นวัดสมบูรณ์ ในปี พุทธศักราช 2421พระองค์ทรงเสด็จไปควบคุมงานก่อสร้างด้วยพระองค์เอง เป็นวัดที่แปลกประหลาด ทั้งวัดเป็นศิลปะแบบยุโรป โดยเฉพาะพระอุโบสถ วางโครงสร้างเป็นแบบคริสต์ แต่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปแบบวัดไทยโดยทั่วไป
การสร้างวัดเป็นแบบยุโรปนี้ ทรงตรัสว่า “เพื่อให้ประชาชนคนไทย ได้ชมเล่นเป็นของแปลกประหลาด ไม่เคยมีในพระอารามอื่นมาก่อน แต่ใช่ว่าพระองค์จะทรงนับถือศาสนาอื่น นอกเหนือจากพระพุทธศาสนานั้น หามิได้“
หลังจากทรงสร้างวัดนิเวศธรรมประวัติเสร็จแล้ว ทรงอาราธนา พระภิกษุจากวัดราชประดิษสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร มาเป็นเจ้าอาวาส และพระลูกวัด เสร็จแล้ว ทรงจัดงานเฉลิมฉลองวัดอย่างยิ่งใหญ่ เป็นแบบประเพณีงานวัดนอกกรุง จวบมาจนถึงปัจจุบัน


หลังสร้างวัดเสร็จ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย) ทรงผนวช และเสด็จมาจำพรรษาที่วัดนิเวศธรรมประวัติ เป็นเวลา 1 ปี ในช่วงที่พระองค์จำพรรษาที่วัดนิเวศธรรมประวัติ ได้ทรงเป็นอาจารย์สอนเด็กๆ ลูกชาวนาในพื้นที่ นำเทคนิคแบบเรียนเร็วมาใช้ เพราะเด็กๆ ชาวนา เมื่อถึงเวลาทำนาก็ไปช่วยพ่อแม่ หมดหน้านาแล้วก็กลับมาเรียน ทำให้ลืมที่เรียนไปหมด จึงทรงคิดแบบเรียนเร็วเพื่อให้นักเรียนท่องจำ เมื่อกลับมาเรียนใหม่ ก็สามารถจดจำที่เรียนได้โดยไม่ลืม

ปัจจุบัน วัดนิเวศธรรมประวัติ มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ มาเยี่ยมชมวัดไม่ขาดสาย มีสถานที่น่าชม อาทิ พระอุโบสถ พิพิธภัณฑ์ นาฬิกาแดด ตำหนักกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระนาคปรก พระขอฝน สวนหินดิศกุลอนุสรณ์ เป็นต้น




นอกจากนี้แล้ว ทางวัด ยังมี โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลี และแผนกสามัญศึกษา เปิดโอกาสให้พระภิกษุและสามเณร มีโอกาสทางการศึกษา ยังมีวิชาชีพให้เลือกเรียนพิเศษ เป็นโครงการที่ต่อยอดจากที่ สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงสร้างศูนย์ศิลปาชีพพิเศษบางไทร และทรงพระกรุณาอยากให้นักเรียน มีความรู้ในวิชาชีพ เพื่อช่วยเหลือในการวัด เช่น การเดินสายไฟ เรียนการวาดเขียน วาดภาพศิลปะ เช่น ลายกนก เป็นต้น ปัจจุบัน มีวิชาชีพเสริมขึ้นมา เช่นการซ่อมเครื่องยนต์ด้วย ในยุคแรกๆ นักเรียนต้องเดินทางไปเรียนที่ศูนย์ศิลปาชีพพิเศษบางไทยเอง ต่อมาสมเด็จพระพันปีหลวง ได้ส่งอาจารย์จากศูนย์ฯ มาสอนให้ที่วัดเป็นประจำทุกปี
การให้การศึกษาภายในวัดนั้น มีพระเทพญาณไตรโลกาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสฯ เป็นครูใหญ่คนแรก ของโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาวัดนิเวศธรรมประวัติ มี พระมหานัสฐชัย ราษีทอง (สุทธิชัย รํสิโก) เป็นอาจารย์ใหญ่คนแรก ปัจจุบัน มี พระราชวชิรสารสุธี (เอนก มนุญฺโญ) เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ธรรมยุต) เป็นเจ้าอาวาส
Cr. Fb : thairoyalfamily











